Skip to content

กรณีศึกษา: ตัวอย่างของแบรนด์จริงที่ใช้กลิ่นเพื่อเพิ่มประสบการณ์

หลายแบรนด์ได้ดำเนินกลยุทธ์การตลาดด้วยกลิ่นอย่างสำเร็จ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์กับผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขาย เช่น Abercrombie & Fitch สตาร์บัคส์ Audi และอื่นๆ

หลายแบรนด์ได้ดำเนินกลยุทธ์การตลาดด้วยกลิ่นอย่างสำเร็จ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์กับผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขาย:

1. Abercrombie & Fitch: ที่รู้จักกันด้วยกลิ่นหอมเข้มข้นและแอเบอร์ครอมบี้ & ฟิตช์ใช้กลิ่นซิกเนเจอร์ (Signature Scents)ของตนเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เป็นเอกลักษณ์และที่จดจำได้ กลิ่นซึ่งได้กลิ่นทั้งร้านทำให้มีความรู้สึกเป็นที่รู้จักทันทีและผลักดันความรู้สึกของความคุ้นเคยในหัวใจของลูกค้า

2. สตาร์บัคส์: สตาร์บัคส์ใช้กลิ่นของกาแฟสดต้มเพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง กลิ่นของกาแฟถูกใช้โดยกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าโดยรวมและกระตุ้นให้ลูกค้าพักอยู่นานขึ้น

3. Audi: ออดี้ ใช้กลิ่นเป็นบางครั้งในหน้าร้านของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโปรโมชั่นหรือในงานพิเศษ กลิ่นเหล่านี้มักถูกออกแบบให้เข้ากับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ทันสมัย สร้างบรรยากาศทางสัมผัสที่เพิ่มประสบการณ์ในการเข้าชมหน้าร้านโดยรวม

4. Ralph Lauren: รัลฟ์ ลอเรน นำการตลาดด้วยกลิ่นเข้าสู่บางห้างหลักของพวกเขา พวกเขาได้พัฒนากลิ่นซิกเนเจอร์ (Signature Scents)ที่ใช้เพื่อเพิ่มบรรยากาศและกระตุ้นความรู้สึกของหรูหราและความทันสมัยที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ร้าน Polo Ralph Lauren ของพวกเขาอาจกระจายกลิ่นที่เสริมสไตล์อเมริกันคลาสสิกของพวกเขา

5. Burberry: เบอร์เบอร์รี่ได้ใช้กลยุทธ์การตลาดด้วยกลิ่นในร้านของพวกเขาเพื่อเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า พวกเขาได้พัฒนากลิ่นที่ทันสมัยและหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับบางร้านหลักของพวกเขา ซึ่งสอดคล้องเสน่ห์ของแบรนด์ กลิ่นเหล่านี้ถูกเลือกอย่างรอบคอบเพื่อตรงกับคอลเล็คชั่นแฟชั่นของเบอร์เบอร์รี่และลักษณะทั่วไปของแบรนด์

Leave a comment

Your email address will not be published..

Cart

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options